มีหลายสาเหตุ
นสพ.มติชน
7 กันยายน 2553
นายแพทย์ประวิตร พิศาลบุตร แพทย์โรคผิวหนัง เปิดเผยว่า อาการคันก้นพบได้บ่อย และทำลายทั้งสุขภาพกาย, ใจ และบุคลิกภาพ โดยมักคันที่รอบรูทวารหนักหรือคันเข้าไปในรูทวารหนักพบในชายมากกว่าหญิง เหตุที่พบบ่อยคือการทำความสะอาดบริเวณนี้ไม่ดีพอ พบว่าอาหารที่ใส่เครื่องเทศ, อาหารรสจัดล้วน ทำให้อาการคันบั้นท้ายกำเริบได้ มีอาการท้องเสีย ท้องผูก การใช้กระดาษชำระเช็ดแรงๆ การนุ่งยีนส์คับ ขี่ม้า ขี่จักรยาน ฝีคัณฑสูตรล้วนมีส่วนทำให้คันได้ บางคนเป็นพยาธิเส้นด้ายจะคันมากตอนกลางคืน การติดเชื้อรา เชื้อยีสต์ กระทั่งเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดหูดหงอนไก่ หรือเริม ก็ทำให้เกิดอาการคันนี้ได้ โรคสะเก็ดเงินที่มีปื้นแดงมีขุยขาวหนา หรือโรคเซ็บเดิร์มซึ่งเป็นรังแคของผิวหนัง มักเป็นตามร่องก้นและรอบทวารหนัก ก็ทำให้เกิดอาการคันก้นได้บ่อย ผู้ที่กินยารักษาสิวบางตัว ยาจะทำลายแบคทีเรียเจ้าถิ่นที่คอยคุ้มครองผิวหนังอยู่ ทำให้เชื้อยีสต์และเชื้อแบคทีเรียแปลกปลอมโตเร็วขึ้น จึงเกิดอาการคันก้นได้บ่อย ความเครียดก็ทำให้คันได้
นพ.ประวิตร กล่าวว่า คำแนะนำสำหรับผู้ที่คันก้นคือ ควรทำความสะอาดทุกครั้งที่ขับถ่าย, ไม่ควรใช้กระดาษทิชชูที่แห้งเช็ดบริเวณนี้แรงๆ อาจใช้สายชำระฉีดน้ำเบาๆ แทน ควรสวมกางเกงในหลวมๆ ที่ทำด้วยผ้าฝ้าย หรืออาจเป็นกางเกงบ็อกเซอร์ ก็จะทำให้บริเวณนี้แห้ง ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดก๊าซ, อาหารที่ย่อยยาก, หรือทำให้อุจจาระเหลวหรือท้องเสีย และควรลดอาหารจำพวกมะเขือเทศ, ซอสมะเขือเทศ, น้ำส้ม, ชา,กาแฟ, แอลกอฮอล์, น้ำอัดลมพวกโคลา, ถั่ว, ข้าวโพดคั่ว, นม, ช็อกโกแลต และเครื่องเทศ ไม่ควรเกาอย่างเด็ดขาด เพราะนอกจากเป็นภาพที่ไม่น่าดูแล้วยิ่งเกาก็จะยิ่งคัน ถ้าคันมากตอนกลางคืนและอดเกาไม่ไหว อาจสวมถุงมือที่ทำด้วยผ้าฝ้ายก่อนนอน ถ้าเครียดมากอาจต้องใช้เทคนิคการลดความเครียดตามความเหมาะสม
นสพ.มติชน
7 กันยายน 2553