วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553

“โรคผิวหนัง” กับ “นักกีฬา”

“โรคผิวหนัง” กับ “นักกีฬา”



         ปัจจุบันคนไทยใส่ใจสุขภาพ หันมาเล่นกีฬาและออกกำลังกายกันมากขึ้น ส่งผลดีต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก นพ.ประวิตร พิศาลบุตร แพทย์อเมริกันบอร์ดสาขาโรคผิวหนังและภูมิแพ้ผิวหนัง บอกว่า สิ่งที่อยากฝากเตือนให้พึงระวังคือ โรคผิวหนังและการบาดเจ็บของผิวหนังที่อาจเกิดขึ้นได้ มีดังต่อไปนี้
นิตยสารหมอชาวบ้าน
คอลัมน์ ผิวสวย หน้าใส
สิงหาคม ๒๕๕๓
นายแพทย์ประวิตร พิศาลบุตร


    โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) ...มักไม่หายขาด

           พบโรคสะเก็ดเงินได้ทั่วโลกประมาณร้อยละ ๒ ของประชากร เป็นในชายและหญิงเท่ากัน โรคสะเก็ดเงิน (psoriasis) เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่มีหลายรูปแบบ คือ
โรคสะเก็ดเงินชนิดปื้นนูนหนาขนาดใหญ่ และเป็นเรื้อรัง พบได้บ่อย ปื้นมีขอบเขตชัดเจน, สีออกชมพูถึงแดง, มีสะเก็ดสีเงินปกคลุม พบที่ข้อศอก, ข้อเข่า, แขนขา และหลังด้านล่าง,
โรคสะเก็ดเงินรูปหยดน้ำ พบบ่อยที่สุดในเด็ก, วัยรุ่น และวัยผู้ใหญ่ตอนต้น เป็นปื้นนูนขนาดเล็กเส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า ๑ ซม.จำนวนมากตามลำตัว, แขนขา อาจพบหลังการเจ็บคอ,
โรคสะเก็ดเงินตามซอกพับ พบผื่นที่ขาหนีบ, รักแร้ และใต้ราวนม,
โรคสะเก็ดเงินที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ผื่นชนิดนี้อาจหนามาก และทำให้ฝ่ามือ ฝ่าเท้าแตก และเจ็บ,
โรคสะเก็ดเงินชนิดตุ่มหนองทั่วร่างกาย มักรู้สึกไม่สบาย, มีไข้ และเจ็บผิวหนัง,
โรคสะเก็ดเงินชนิดเป็นผื่นแดงทั่วร่างกาย คือมีผิวหนังอักเสบแดงร้อยละ ๙๐ ของร่างกายขึ้นไป

       อาจพบโรคสะเก็ดเงินเป็นที่หนังศีรษะ โดยเฉพาะตามแนวไรผม และยังพบโรคสะเก็ดเงินของเล็บ ลักษณะคือเล็บมีหลุมเล็กๆ, เล็บหนาผิดรูปร่าง บางรายพบว่าเนื้อใต้เล็บมีจุดสีเหลือง และอาจพบเล็บเผยอ พบว่าผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินประมาณร้อยละ ๕-๓๐ อาจพบโรคสะเก็ดเงินของข้อร่วมด้วย มักเป็นที่ข้อนิ้วส่วนปลาย

       โรคสะเก็ดเงินอาจกำเริบได้จากปัจจัยหลายอย่าง เช่น จากยาบางตัว, ความเครียด, การสูบบุหรี่, การดื่มแอลกอฮอล์, โรคอ้วน และการติดเชื้อไวรัสเอดส์ (HIV)

การฉีดโบท็อกซ์ (Botox)

     การฉีดโบท็อกซ์ (Botox)
                             Botulinum toxin in dermatology

    นพ. ประวิตร พิศาลบุตร

           Botulinum toxin เป็นผลิตภัณฑ์จาก Clostridium botulinum ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่พบในดิน และตะกอนในทะเล พบสปอร์ของแบคทีเรียตัวนี้ในพืชผักผลไม้ และอาหารทะเล แบคทีเรียตัวนี้สร้างสารพิษต่อระบบประสาท (neurotoxin) คือ botulinum toxin ที่ยับยั้งการหลั่ง acetylcholine ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว (flaccid paralysis)

            ปัจจุบันมีการใช้สารพิษตัวนี้ในการรักษาโรคหลายชนิด ประมาณกันว่าการใช้สารพิษโบทูลินัมในปัจจุบันนั้น ครึ่งหนึ่งเป็นการใช้แบบนอกเหนือจากที่ได้รับอนุมัติมา (off-label, extra-label use, nonapproved use หรือ unapproved use) ในสหรัฐอเมริกา (และในอีกหลายประเทศ) เมื่อมีการอนุมัติให้ใช้ยาแล้ว แพทย์อาจนำยานั้นมารักษาอาการหรือโรคอื่นที่แพทย์เห็นว่าเหมาะสมได้ อย่างไรก็ตามห้ามบริษัทยาและแพทย์โฆษณาการใช้ยาในลักษณะ off-label. เมื่อไม่นานมานี้ FDA สหรัฐอเมริกาได้เปลี่ยนแปลงชื่อตัวยา และสรุปข้อบ่งชี้ในการใช้ผลิตภัณฑ์สารพิษโบทูลินัมตามที่ FDA สหรัฐอเมริกาอนุมัติให้ใช้ และได้วางแนวทางและข้อควรระวังใหม่แก่บุคคลากรทางการแพทย์ที่ต้องใช้ยากลุ่มนี้

วันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2553

แมลงไชชอนจริง vs แมลงไชชอนหลอก ?!?

นิตยสาร หมอชาวบ้าน
คอลัมน์ ผิวสวย หน้าใส
กันยายน ๒๕๕๓
นายแพทย์ประวิตร พิศาลบุตร

      แมลงไชชอนจริง vs แมลงไชชอนหลอก ?!?
     
       เมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมามีกรณีพบโรคประหลาดมีแมลงออกมาจากผิวหนังในผู้ป่วยที่ลำปาง และชุมพร ซึ่งในที่สุดสรุปว่าน่าเข้าข่ายโรคจิตหลงผิดทางผิวหนัง จึงขอถือโอกาสนี้เล่าเรื่องของแมลงหรือปรสิตที่ไชชอนผิวหนังได้จริง และเรื่องของแมลงหรือปรสิตที่ไชชอนหลอกๆ คือไม่มีตัวตนจริงแต่ผู้ป่วยคิดไปเอง โดยขอเล่าถึงกรณีหลังคือไชชอนหลอกๆ ก่อน



โรคจิตหลงผิดว่ามีปรสิตที่ผิวหนัง (delusions of parasitosis)
ภาพผู้ป่วยจากDavid T Robles MD PhD, Sharon Romm MD, Heidi Combs MD, Jonathan Olson BS, Phil Kirby MD. Delusional disorders in dermatology: a brief review. Dermatology Online Journal 14 (6): 2.

อาการคันบั้นท้ายพบบ่อย

หมอชี้อาการ คันบั้นท้าย พบบ่อย   
มีหลายสาเหตุ

นสพ.มติชน
7 กันยายน 2553


      นายแพทย์ประวิตร พิศาลบุตร แพทย์โรคผิวหนัง เปิดเผยว่า อาการคันก้นพบได้บ่อย และทำลายทั้งสุขภาพกาย, ใจ และบุคลิกภาพ โดยมักคันที่รอบรูทวารหนักหรือคันเข้าไปในรูทวารหนักพบในชายมากกว่าหญิง เหตุที่พบบ่อยคือการทำความสะอาดบริเวณนี้ไม่ดีพอ พบว่าอาหารที่ใส่เครื่องเทศ, อาหารรสจัดล้วน ทำให้อาการคันบั้นท้ายกำเริบได้ มีอาการท้องเสีย ท้องผูก การใช้กระดาษชำระเช็ดแรงๆ การนุ่งยีนส์คับ ขี่ม้า ขี่จักรยาน ฝีคัณฑสูตรล้วนมีส่วนทำให้คันได้ บางคนเป็นพยาธิเส้นด้ายจะคันมากตอนกลางคืน การติดเชื้อรา เชื้อยีสต์ กระทั่งเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดหูดหงอนไก่ หรือเริม ก็ทำให้เกิดอาการคันนี้ได้ โรคสะเก็ดเงินที่มีปื้นแดงมีขุยขาวหนา หรือโรคเซ็บเดิร์มซึ่งเป็นรังแคของผิวหนัง มักเป็นตามร่องก้นและรอบทวารหนัก ก็ทำให้เกิดอาการคันก้นได้บ่อย ผู้ที่กินยารักษาสิวบางตัว ยาจะทำลายแบคทีเรียเจ้าถิ่นที่คอยคุ้มครองผิวหนังอยู่ ทำให้เชื้อยีสต์และเชื้อแบคทีเรียแปลกปลอมโตเร็วขึ้น จึงเกิดอาการคันก้นได้บ่อย ความเครียดก็ทำให้คันได้

ยาทารักษาฝ้า

วารสารคลินิก
เวชปฏิบัติปริทัศน์
ฉบับกรกฎาคม พ.ศ. 2551

โรค ฝ้า ในเวชปฏิบัติ
(Melasma in Clinical Practice)


        ยาทารักษา ฝ้า

ประวิตร พิศาลบุตร พ.บ., เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง
Diplomate, American Board of Dermatology
Diplomate, American Subspecialty Board of Dermatological Immunology,
Diagnostic and Laboratory Immunology
อาจารย์พิเศษ, ภาควิชาเภสัชกรรม, คณะเภสัชศาสตร์, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

     การรักษาฝ้าส่วนใหญ่ใช้ยาทาให้สีจางลง ซึ่งมีทั้งยาที่ผ่านการศึกษาและนำมาใช้กันแพร่หลาย และ ยาทากลุ่มใหม่ที่กำลังวิจัยและทดลองใช้
      
       ในการใช้ยาทารักษาฝ้า ควรมีความเข้าใจพื้นฐานของกระบวนการสร้างเม็ดสี เพื่อให้เข้าใจกลไกการออกฤทธิ์ของยารักษาโรคฝ้าขนานต่างๆ เม็ดสีเมลานินถูกสังเคราะห์ผ่านปฏิกิริยาอ็อกซิเดชันต่อเนื่อง โดยเริ่มจากกรดอะมิโน tyrosine และ เอนซัยม์ tyrosinase โดยที่เอนซัยม์ tyrosinase จะเปลี่ยน tyrosine เป็น dihydroxyphenylalanine (DOPA) และเปลี่ยนต่อเป็น dopaquinone จากนั้นโดยกระบวนการ auto-oxidation สาร dopaquinone จะเปลี่ยนเป็น dopachrome ต่อจากนั้นเอนซัยม์ dopachrome tautomerase และ DHICA oxidase เปลี่ยน dopachrome เป็น dihydroxyindole หรือ dihydroxyindole-2-carboxylic acid (DHICA) ทำให้เกิดเม็ดสี eumelanin ซึ่งมีสีน้ำตาล-ดำ ในกรณีที่มี cysteine หรือ glutathione สาร dopaquinone จะถูกเปลี่ยนเป็น cysteinyl DOPA หรือ glutathione DOPA ทำให้เกิดเม็ดสี pheomelanin ซึ่งมีสีแดง-เหลือง.

คำถามเหมาโหลเกี่ยวกับโรคสิว (The Dozen Acne FAQs)

วิชัยยุทธจุลสาร ฉบับพฤษภาคม-สิงหาคม 2553
คำถามเหมาโหลเกี่ยวกับโรค สิว
(The Dozen Acne FAQs)

นายแพทย์ประวิตร พิศาลบุตร
แพทยศาสตรบัณฑิตเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
Diplomate, American Board of Dermatology
Diplomate, American Subspecialty Board of Dermatological Immunology
อาจารย์พิเศษภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร ____________________________________________________________________________________

     โรค สิว เป็นโรคผิวหนังที่พบบ่อยที่สุด หลายคนมีความเชื่อว่าสิวเป็นแค่ปัญหาความงาม ไม่ต้องรักษาก็หายเองได้ แท้ที่จริงแล้วปัจจุบันจัดว่าสิวเป็น “โรคเรื้อรัง” ที่ต้องการการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง
         และโรคสิวนั้นนอกจากก่อความเจ็บป่วยทางร่างกายแล้ว ยังส่งผลเสียต่อจิตใจอีกด้วย จากการประชุมของแพทย์ผิวหนังทั่วโลกใน “กลุ่มพันธมิตรพิชิตสิว” (Global Alliance to Improve Outcomes in Acne) เสนอว่า ต้องรณรงค์ให้ประชาชนเข้าใจว่าสิวเป็นโรคเรื้อรังชนิดหนึ่ง ซึ่งทั่วไปแพทย์สามารถรักษาสิวให้หายได้แต่มักกลับเป็นซ้ำได้บ่อย การรักษาสิวที่ถูกต้องจึงต้องรวมทั้งการให้ยาเพื่อให้สิวหาย และยังต้องใช้ยาต่อเนื่องไปอีกเพื่อไม่ให้สิวกำเริบใหม่ ผู้ที่เป็นสิวจึงต้องเข้าใจว่า สิวเป็นโรคเรื้อรังที่มีอาการกำเริบและอาการสงบสลับกันไปอย่างต่อเนื่องกันนาน พบเสมอว่าผู้ป่วยสิวทั่วโลกรวมทั้งในไทยจะใช้ยาแค่เพื่อรักษาสิวให้หาย แต่ไม่ได้ใช้ยาเพื่อป้องกันไม่ให้สิวเกิดขึ้นใหม่ สิวที่ไม่ได้ดูแลรักษาอย่างถูกต้อง ทำให้เกิดแผลเป็นทั้งทางร่างกายและจิตใจ ทำให้ผู้ป่วยขาดความมั่นใจ ซึมเศร้า และกระวนกระวาย

วันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

บอดี้โมดิฟาย แฟชั่นสุดเจ็บ..เจ็บ..เจ็บ..เจ็บ !!!!

นานาสาระ ต่วย’ตูน



บอดี้โมดิฟาย แฟชั่นสุดเจ็บ..เจ็บ..เจ็บ..เจ็บ !!!!

นพ. ประวิตร พิศาลบุตร


           เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวฮือฮาเรื่องการตัดอัณฑะทิ้ง วันนี้จึงขอเล่าเรื่องบอดี้โมดิฟาย หรือ body modification ซึ่งคือ การเปลี่ยนแปลงรูปร่างของมนุษย์อย่างถาวรหรือกึ่งถาวรโดยไม่มีเหตุผลทางการแพทย์
                ส่วนใหญ่คนทำบอดี้โมดิฟายเพื่อเพิ่มการแสดงความเป็นตัวของตัวเอง, เพิ่มความดึงดูดทางเพศ,เพื่อความสวยงาม,แสดงความเป็นหมู่คณะ, แสดงความเชื่อความศรัทธาในลัทธิหรือศาสนา หรือเพื่อทำให้คนที่เห็นเกิดความอึ้งทึ่งเสียว แต่ก็พบบ่อยว่าคนที่ทำบอดี้โมดิฟายหลายรายมีอาการป่วยทางจิต บอดี้โมดิฟายมีได้ตั้งแต่ที่เป็นที่ยอมรับกันได้ทั่วไป เช่น เจาะหู, ขลิบหนังหุ้มปลาย ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงรูปร่างที่แปลก ๆ มากขึ้นไปเรื่อยๆ การตัดอัณฑะทิ้งก็จัดเป็นบอดี้โมดิฟายอย่างหนึ่งครับ ตัวอย่างของบอดี้โมดิฟายที่รู้จักกันทั่วไป เช่น การสัก, การเจาะ, การกรีดผิวหนัง และการผ่าลิ้น ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในวัยรุ่นและผู้ใหญ่บางกลุ่ม แฟชั่นเหล่านี้อาจมีอันตรายได้ ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง คือ โรคโลหิตออกไม่หยุดที่เรียกว่า ฮีโมฟีเลีย, โรคลิ้นหัวใจพิการ, โรคผิวหนังแพ้และพุพอง, ผู้ที่มีประวัติแพ้เครื่องประดับ คือแพ้โลหะนิกเกิล หรือผู้ที่เกิดแผลเป็นนูนโตที่เรียกว่าคีลอยด์ง่าย ควรงดเว้นการทำตามแฟชั่นเหล่านี้ เพราะเสี่ยงต่อผลแทรกซ้อนสูง

สุขภาพผิวดีได้ไม่ต้องแพง และ โรคกลีบกุหลาบเป็นอย่างไร ?

Healthy Skin Q & A / HealthToday
มิถุนายน 2552
นายแพทย์ประวิตร พิศาลบุตร



สุขภาพผิวดีได้ไม่ต้องแพง และ โรคกลีบกุหลาบเป็นอย่างไร ?


สุขภาพผิวดีได้ไม่ต้องแพง

Q.  ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยจะดี ต้องเพลาๆ การซื้อเครื่องสำอางและการไปเข้าคอร์สทำหน้าลงบ้าง อยากถามคุณหมอประวิตรว่า มีวิธีการดูแลรักษาผิวหน้าแบบประหยัดอย่างไรบ้างคะ ?
ชลธิพา / กรุงเทพฯ

A.  การดูแลรักษาและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นกับผิวพรรณ วิธีปฏิบัติง่ายๆ มีดังนี้

ล้างหน้าด้วยสบู่อ่อน โดยล้างหน้าเบาๆ แล้วซับหน้าให้แห้งด้วยผ้าขนหนูสะอาด อย่าใช้ผ้าขนหนูถูหน้าแรงๆ เพราะจะทำให้สิวอักเสบมากขึ้น ไม่ควรใช้แปรง ฟองน้ำ สบู่ยา หรือสบู่ที่ผสมเม็ดขัดถูใบหน้า

หากเป็นสิวน้อย อาจทายาเองได้ สิวเล็กน้อย เช่น สิวหัวดำ, หัวขาว หรือสิวอักเสบเพียง 1-2 เม็ด อาจหาซื้อยามาทาเองได้ แต่ต้องอ่านฉลากยาให้เข้าใจวิธีใช้โดยละเอียดเสียก่อน ถ้าใช้ครีมทารักษาสิวแล้วเกิดอาการผิวแห้งหรือระคายเคือง ควรปรึกษาแพทย์

พิจารณาให้ดีก่อนใช้เครื่องสำอาง เลือกใช้เครื่องสำอางเท่าที่จำเป็น ต้องไม่มีสารสเตียรอยด์เจือปน เลือกใช้ครีมให้ความชุ่มชื้นที่ไม่มีส่วนประกอบที่เป็นสารเคมีกระตุ้นให้เกิดสิว

ไม่แนะนำให้บีบแกะสิวออกด้วยตัวเอง เพราะทำให้สิวอักเสบลุกลามและเกิดแผลเป็นได้ ส่วนการใช้แผ่นขจัดสิวเสี้ยนนั้น หากใช้บ่อยครั้งเกินไป ผิวอาจอักเสบระคายเคืองและเป็นการกระตุ้นให้เกิดสิวมากขึ้นได้

หลีกไกลรอยย่นโดยขจัดสาเหตุต้นตอ รอยเหี่ยวย่นบนผิวหน้าแบ่งเป็น 3 ชนิดใหญ่ๆ คือ รอยเหี่ยวจากอารมณ์, รอยเหี่ยวจากแสงแดด และรอยเหี่ยวแห้ง การป้องกันรอยย่น 3 แบบนี้คือ การมีอารมณ์แจ่มใส อย่าทำหน้านิ่วคิ้วขมวด เพื่อลดรอยเหี่ยวย่นจากอารมณ์ หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัดเพื่อป้องกันรอยเหี่ยวย่นจากแสงแดด และการใช้ครีมให้ความชุ่มชื้นทาในกรณีของรอยเหี่ยวแห้ง

สารพัดเทคนิครักษาสิว เมื่อเด็กและทารกเป็นสิว

Healthy Skin Q & A / HealthToday 
นายแพทย์ประวิตร พิศาลบุตร
กรกฎาคม 2551

เรื่อง สิว...สิว

สารพัดเทคนิครักษาสิว

Q       อยากทราบว่าปัจจุบันมีกรรมวิธีใดที่นอกเหนือจากการใช้ยาทายากิน เพื่อรักษาสิวและรอยแผลเป็นสิวได้บ้างคะ
พรทิพย์ / พิษณุโลก

A       ปัจจุบันมีเทคนิคทางกายภาพที่ใช้รักษาโรคสิวและรอยแผลเป็นจากสิว ทำให้ใช้เวลาในการกินยาทายาลดลง จนถึงอาจไม่ต้องกินยาหรือทายาเลยก็ได้ในบางราย เทคนิคเหล่านี้ได้แก่

การลอกผิวหนังด้วยสารเคมี ใช้รักษาสิวและรอยแผลเป็นสิว สารเคมีที่ใช้ เช่น กรดอัลฟ่า ไฮดรอกซี่ หรือ กรดผลไม้ ช่วยลดรอยแผลเป็นสิว หลุมแผลเป็นตื้นขึ้น รอยด่างดำและรูขุมขนโตดูดีขึ้น ป้องกันการเกิดสิวใหม่ ผู้ที่มีผิวคล้ำต้องระวังการลอกหน้า เพราะอาจเกิดรอยดำได้ ผู้ที่เคยเป็นเริม ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบ เพราะการลอกหน้าอาจทำให้เริมกำเริบและแพร่กระจายทั่วใบหน้า ทำให้เกิดแผลเป็น

การกดสิว ใช้เครื่องมือกดสิวอุดตันหัวดำและหัวขาว ต้องทำโดยผู้ชำนาญเพราะเม็ดสิวอาจแตกเข้าสู่ผิวข้างเคียงทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อ

การผ่าตัด สิวที่มีลักษณะเป็นถุงซิสต์ขนาดใหญ่ บางครั้งไม่ตอบสนองต่อการรักษาทางยา ต้องใช้การผ่าตัดเจาะเพื่อให้หนองไหลเพื่อลดการอักเสบและเกิดแผลเป็น

การกรีดใต้ผิว เป็นเทคนิคศัลยกรรมที่ลดรอยแผลเป็นที่ใช้รักษาแผลสิวชนิดเป็นลูกคลื่น เทคนิคนี้ใช้การแยกชั้นผิวหนังบริเวณที่เป็นออกจากเนื้อแผลเป็นข้างใต้ ทำให้มีเลือดสะสมอยู่ในรอยแยก มีการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาในรอยแยกใต้ผิวนั้น หลุมแผลเป็นจึงค่อย ๆ ตื้นขึ้น

เทคนิคการขัดผิวหนังด้วยหัวขัด หลังทำผิวจะแดงดูเป็นแผลถลอก ต้องใช้เวลานานหลายเดือนกว่าแผลหาย วิธีนี้เหมาะสำหรับแผลเป็นที่นูนขึ้นมาเหนือผิว วิธีนี้ไม่ค่อยได้ผลกับแผลเป็นที่เป็นหลุมชนิดเป็นรูเหล็กแทงน้ำแข็ง และยังทำให้หลุมแผลเป็นดูกว้างขึ้นเพราะก้นแผลของแผลเป็นชนิดนี้มักกว้างกว่าปากแผล ไม่ค่อยได้ผลกับแผลเป็นที่หน้าอกและหลัง อาจทำให้เกิดคีลอยด์มากขึ้นเพราะหน้าอกและหลังช่วงบนเป็นตำแหน่งที่เกิดคีลอยด์ง่าย

เทคนิคการขัดผิวด้วยผงอะลูมิเนียม ใช้ผงขัดผลึกอลูมิเนียมพ่นผิวหนังทำให้ผิวส่วนบนลอกออก ช่วยรักษารอยแผลเป็นสิวที่เป็นไม่มาก ทำให้ผิวแลดูเรียบเนียนและมีสีสม่ำเสมอขึ้น

การฉีดสเตียรอยด์ สิวอักเสบมากหรือสิวที่เป็นถุงซิสต์อาจแตกและเกิดแผลเป็น เพื่อลดการอักเสบและป้องกันการเกิดแผลเป็น แพทย์อาจฉีดสิวด้วยสเตียรอยด์ความเข้มข้นต่ำ ซึ่งลดการอักเสบและทำให้สิวยุบภายใน 3-5 วัน ผู้ที่เป็นเบาหวานร่วมด้วยไม่ควรใช้เทคนิคนี้ การฉีด สเตียรอยด์รักษาสิวทำให้สิวยุบเร็วจริง แต่มีข้อแทรกซ้อนคือทำให้เกิดสิวใหม่ตามมา เพราะ สเตียรอยด์เป็นสารก่อสิวด้วย และยังอาจเกิดรอยบุ๋มที่ตำแหน่งที่ฉีด ซึ่งต้องใช้เวลานานหลายเดือนกว่าผิวจะกลับมาเต็มตามปกติ

สิวจากเชื้อเกลื้อน เครื่องสำอางกรดผลไม้

Healthy Skin Q & A / HealthToday
นายแพทย์ประวิตร พิศาลบุตร
สิงหาคม 2551

 สิวจากเชื้อเกลื้อน ?

Q   ผมชอบเล่นกีฬามาก ช่วงนี้สังเกตว่ามีอาการคันที่หลัง ส่องกระจกดูเห็นเป็นตุ่มแดงเล็ก ๆ ใช่สิวไหมครับ ?
รังสิต / นนทบุรี

จากข้อมูลที่ให้มาสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นสิวจากเชื้อเกลื้อน ซึ่งลักษณะของโรคนี้คือพบตุ่มแดงเล็กๆ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2-4 มม. ตามตำแหน่งรูขุมขน อาจพบตุ่มหนองขนาดเล็กบนตุ่มแดง พบตุ่มเหล่านี้ตามตำแหน่งที่ผิวหนังมีเชื้อเกลื้อนมาก คือ ที่หน้าอก,หลังช่วงบน,ต้นแขน,หนังศีรษะ และ คอ ไม่ค่อยพบที่ใบหน้า ถ้าไปตรวจ แพทย์อาจฉายแสงสีม่วง (Wood light) พบการเรืองแสงสีขาวหรือฟ้าที่รูขุมขน มักมีอาการคันร่วมด้วย (สิวทั่วไปมักไม่ค่อยคัน) มักเป็นที่ลำตัวช่วงบนของวัยผู้ใหญ่ตอนต้นจนถึงกลางคน ได้รับการรักษาแบบสิวธรรมดาก็ไม่ค่อยดีขึ้น สิวชนิดนี้เกิดจากเชื้อยีสต์ Malassezia furfur ซึ่งเป็นเชื้อตัวเดียวกับที่ก่อให้เกิดเกลื้อน โดยตรวจพบเชื้อยีสต์ในรูขุมขน ปัจจัยที่กระตุ้นให้เชื้อยีสต์กำเริบ คือ โรคทางร่างกายบางอย่าง เช่น เบาหวาน,เอดส์,การได้รับยากดภูมิต้านทาน นอกจากนั้น การตั้งครรภ์,การได้รับยาปฏิชีวนะ,ยากันชัก,การอยู่ในที่ร้อนชื้น,การเล่นกีฬามีเหงื่อออกมาก,การทาครีมบำรุงผิว,น้ำมัน,ยากันแดด หรือ การสวมเสื้อผ้าหนาทำให้ผิวและรูขุมขนอับชื้นระบายอากาศไม่ดี โดยทั่วไปแพทย์วินิจฉัยโรคนี้ด้วยการดูด้วยตาเปล่า อาจขูดผิวมาดูเชื้อด้วยกล้องจุลทรรศน์ แนวทางการรักษาสิวชนิดนี้ ใช้ยาทา เช่น ครีม หรือ แชมพูคีโตโคนาโซล, แชมพูซิลิเนียมซัลไฟด์ หรือ ยากินฆ่าเชื้อยีสต์ แต่ควรพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องก่อน นอกจากนั้นการกินยาก็ต้องระวังเพราะยากลุ่มนี้ทำให้ตับอักเสบได้ครับ

วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2553

สวยแบบต้องเสี่ยงและสวยแบบเพียงพอ...เตือนวัยรุ่นคลั่งขาว ระวังอันตราย


หมอชาวบ้าน ฉบับ ๓๖๙
เดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๕๓
เรื่องเด่นจากปก

สวยแบบต้องเสี่ยงและสวยแบบเพียงพอ...เตือนวัยรุ่นคลั่งขาว ระวังอันตราย

นพ.ประวิตร พิศาลบุตร
แพทย์โรคผิวหนัง
ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร
________________________________________________________________________________

ปัจจุบันพบบ่อยว่าวัยรุ่นให้ความสำคัญกับการมีรูปร่างหน้าตาดี การมีผิวพรรณสดใส ซึ่งก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิดอะไร
หากหนทางที่ได้มานั้นเป็นไปโดยธรรมชาติ เช่น จากการรับประทานอาหารให้ครบหมู่ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ
แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับพบว่า วัยรุ่นบางส่วนหมกมุ่นอยู่กับการดูแลรูปร่างหน้าตาตนเอง ความอยากมีผิวขาวใส
ยอมทุ่มเททั้งเวลาและเงินทองกับสิ่งภายนอกเหล่านี้ จนบางคนให้เวลากับหน้าที่หลักคือการศึกษาน้อยมาก

ผิวขาวใส...ดีจริงหรือ ?

ที่จริงแล้วคนมีผิวขาวน่าจะเรียกว่าเป็นผู้มีโชคไม่ดีนัก เพราะผิวขาวสามารถกลั่นกรองอันตรายจากแสงแดดน้อยกว่าคนผิวดำ
ใต้ผิวหนังของเรามีเม็ดสีที่เรียกว่า "เมลานิน" กระจายตัวอยู่ ซึ่งทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันผิวหนังจากรังสีในแสงแดดตามธรรมชาติ
และทำให้สีผิวแตกต่างกันไป คนผิวขาวนั้นที่จริงน่าจะกล่าวว่าเป็นคนอาภัพ เพราะมีเม็ดสีขนาดเล็ก
เวลาที่โดนแสงแดดจัดๆ ทำให้ผิวหนังไหม้แดดได้เร็ว ลองสังเกตดูคนต่างชาติที่มีผิวขาว พบว่าจะมีผิวตกกระ ผิวเหี่ยวแก่เร็วกว่า
และยังเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังสูงกว่าพวกเราคนไทยที่มีผิวเหลืองหรือผิวที่คล้ำกว่า
และนับวันโลกเราจะได้รับอันตรายจากแสงแดดมากขึ้น เพราะชั้นโอโซนถูกทำลายให้บางลงจนเกิดภาวะโลกร้อนไปทั่ว
เคยมีคนทำนายว่าหลายๆ พันปีต่อนี้ไป พื้นโลกจะได้รังสีมากขึ้นเรื่อยๆ คนผิวดำจะเป็นเพียงเผ่าพันธุ์สุดท้ายที่ยังเหลือชีวิตรอดอยู่ได้

อาการคันอาจส่งสัญญาณว่าเป็นโรคอื่นร่วมด้วย

อาการคันอาจส่งสัญญาณว่าเป็นโรคอื่นร่วมด้วย


ปัจจุบันพบว่าอาการคันเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยมาพบแพทย์ได้บ่อยมาก  โดยยังพบได้บ่อยว่าอาการคันนั้นอาจสัมพันธ์กับโรคทางกายตามระบบอย่างอื่นด้วย

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายแพทย์ประวิตร พิศาลบุตร แพทย์โรคผิวหนัง เปิดเผยในบทความ
วิชาการตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ (วารสารคลินิก) ฉบับเดือนตุลาคม 2552 นี้ว่า
อาการคันเป็นความรู้สึกไม่สบายผิวหนังที่ทำให้อยากเกา
ประมาณว่าผู้ป่วยที่มาพบแพทย์ด้วยอาการคันร้อยละ 10 - 50

จะตรวจพบว่ามีโรคทางกายที่เป็นสาเหตุของอาการคันร่วมด้วย คืออาจพบ

อาการคันในผู้ป่วยโรคไต ซึ่งมักคันเป็นครั้งคราว หรืออาจคันต่อเนื่องทั้งวันทั้งคืน
อาการคันมักกำเริบเวลากลางคืน หรือระหว่างทำการฟอกไตหรือเพิ่งทำเสร็จ และมักมีผิวแห้งทั่วไป,

ส่วนอาการคันในผู้ป่วยโรคตับ มักคันเป็นช่วงๆ คันไม่มากนัก อาจเป็นเฉพาะที่ หรือกระจายทั่วตัว มักคันมากที่มือและเท้า และตำแหน่งที่สวมเสื้อผ้ารัดรูป อาจพบผิวสีเหลืองที่เรียกดีซ่าน
ไฝแดงลักษณะเหมือนแมงมุม เต้านมโตในผู้ชาย ก้อนไขมันสีเหลืองมักเป็นที่หนังตาบน ม้ามโต ผิวมีสีโคลน,

อาการคันจากโรคเลือดมักคันเฉพาะที่ ซึ่งมักเป็นที่บริเวณรอบทวารหนัก และที่อวัยวะเพศหญิง ในโรคเลือดบางอย่างอาจคันหลังสัมผัสน้ำ มักเป็นหลังอาบน้ำร้อน หรืออาบฝักบัว
ผู้ป่วยที่เป็นโรคโลหิตจางจากขาดเหล็กจะมีผิวซีด อาจมีลิ้น และมุมปากอักเสบ,

อาการคันจากโรคต่อมไร้ท่อ มักเป็นทั่วร่างกาย และสัมพันธ์กับอาการของโรคที่เป็น
ผู้ป่วยเบาหวานบางรายอาจคันที่เฉพาะที่ พบบ่อยที่อวัยวะเพศหญิงหรือทวารหนัก
พบบ่อยว่ามีการติดเชื้อยีสต์และเชื้อราร่วมด้วย
ในผู้ป่วยที่ต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยจะมีเล็บเปราะ, ผิวและผมหยาบแห้ง
ส่วนผู้ป่วยที่ต่อมไทรอยด์ทำงานมากจะมีผิวอุ่น, เรียบ และละเอียด
อาจมีโรคลมพิษเรื้อรัง อาการแสดงอื่นคือ มีไข้, หัวใจเต้นเร็ว, ตาโปน

อาการคันในมะเร็ง มักคันรุนแรงปานกลางถึงคันมาก ตำแหน่งที่พบบ่อยคือแขนด้านนอกและหน้าแข้ง พบว่าอาการคันในรูจมูกอาจสัมพันธ์กับเนื้องอกในสมอง
ส่วนอาการคันในมะเร็งต่อมน้ำเหลืองอาจนำมาก่อนการวินิจฉัยโรคนานถึง 5 ปี
อาการคันในกลุ่มนี้จะคันจนทนไม่ได้, คันแบบต่อเนื่อง และคันรุนแรงมาก อาการคันจากโรคเอดส์ อาจพบผื่นลอกเป็นขุยที่ใบหน้า (seborrheic dermatitis), ผิวแห้ง, มีการติดเชื้อที่ผิวหนัง เช่น ติดเชื้อรา, เชื้อไวรัส

วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2553

โรคจิตหลงผิดของผิวหนัง

เวชปฏิบัติปริทัศน์ วารสารคลินิก
ความสัมพันธ์ระหว่างจิตใจและผิวหนัง (The Mind and Skin Connection)
ตอนจบ... โรคจิตหลงผิดของผิวหนัง

ประวิตร พิศาลบุตร พ.บ. , เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง
Diplomate, American Board of Dermatology
Diplomate, American Subspecialty Board of Dermatological Immunology
อาจารย์พิเศษภาควิชาเภสัชกรรม, คณะเภสัชศาสตร์, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข,สภาผู้แทนราษฎร

         โรคจิตหลงผิด (delusional disorder) เป็นความผิดปกติทางจิตใจที่มีอาการหลงผิดหนึ่ง หรือหลายอย่าง แต่ไม่มีอาการ และอาการแสดงของโรคทางจิตเวชอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น schizophrenia และไม่มีอาการประสาทหลอน (hallucinations)ที่ชัดเจน อย่างไรก็ตามผู้ป่วยที่มีอาการหลงผิดบางรายอาจพบอาการประสาทหลอนทางสัมผัส (tactile hallucinations)หรือประสาทหลอนทางกลิ่น (olfactory hallucinations) หากว่าอาการเหล่านี้เกี่ยวเนื่องกับเนื้อหาของความหลงผิด และอาการไม่ได้เป็นจากผลโดยตรงด้านสรีรวิทยาจากสาร (เช่น สารเสพติด ยา)หรือจากภาวะความเจ็บป่วยทางกาย โดยทั่วไปผู้ป่วยโรคจิตหลงผิด จะทำงานได้ตามปกติ และไม่แสดงพฤติกรรมที่แปลกพิลึกพิลั่นออกมา แต่เดิมเคยเรียกผู้ป่วยโรคจิตหลงผิดว่า paranoia ปัจจุบันคำว่า paranoia หมายถึงอาการของผู้ป่วย (คือความกลัวที่มากเกินไปและไร้เหตุผล) ไม่ใช้คำว่า paranoia ในการวินิจฉัยชนิดของโรค โรคจิตหลงผิดจัดอยู่ใน ICD-10:F22.

        ปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคจิตหลงผิดของผิวหนัง (delusional disorders in dermatology) ที่จะมาพบแพทย์ผิวหนังและแพทย์เวชปฏิบัติมากกว่าที่จะพบจิตแพทย์ เพราะผู้ป่วยเชื่อว่าตนเองมีอาการทางผิวหนัง ได้แก่ delusions of parasitosis, Morgellons disease,body dysmorphic disorders และ olfactory reference syndrome ดังมีรายละเอียดดังนี้

ความผิดปกติชนิดโซมาโตฟอร์มของผิวหนัง

เวชปฏิบัติปริทัศน์ วารสารคลินิก

ความสัมพันธ์ระหว่างจิตใจและผิวหนัง
(The Mind and Skin Connection)
ตอนที่ 2...ความผิดปกติชนิดโซมาโตฟอร์มของผิวหนัง


ประวิตร พิศาลบุตร พ.บ. , เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง Diplomate, American Board of Dermatology Diplomate, American Subspecialty Board of Dermatological Immunology อาจารย์พิเศษภาควิชาเภสัชกรรม, คณะเภสัชศาสตร์, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข, สภาผู้แทนราษฎร

ในตอนนี้จะกล่าวถึง ความผิดปกติชนิดโซมาโตฟอร์มของผิวหนัง (somatoform disorders in dermatology)ความผิดปกติชนิดโซมาโตฟอร์ม (somatoform disorders) หรือบางครั้งเรียกง่ายๆ ว่า ป่วยก่อนป่วย หรือ โรคที่ไม่เป็นโรคนี้ พบได้บ่อยขึ้นมากในเวชปฏิบัติ เป็นกลุ่มอาการที่มีอาการแสดงทางร่างกายเหมือนเป็นโรค หรือเกิดจากการบาดเจ็บ ที่หาสาเหตุที่แท้จริงว่าเป็นโรคทางกาย, โรคทางจิตใจ หรือจากการได้รับสารไม่ได้ รวมไปถึงอาการหลายอย่าง เช่นปวดศีรษะ, คลื่นไส้, ซึมเศร้า และวิงเวียนศีรษะ ลักษณะเฉพาะของความผิดปกติชนิดโซมาโตฟอร์ม คือไปพบแพทย์เพื่อขอรับการตรวจหลายๆ ครั้งด้วยความเข้าใจว่าตนเองเป็นโรค แต่แพทย์ตรวจไม่พบการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย และได้ยืนยันให้ผู้ป่วยรับทราบ ในการประกอบเวชปฏิบัติโรคผิวหนัง จะพบทั้งผู้ป่วยที่มีลักษณะของรอยโรคผิวหนังที่เห็นเด่นชัดว่า เป็นโรคผิวหนังชนิดใดชนิดหนึ่งอย่างชัดเจน และก็ยังพบกลุ่มผู้ป่วยโรคผิวหนังที่ขาดอาการที่สามารถตรวจพบได้จริง มีการศึกษาแสดงว่าผู้ป่วยที่มาตรวจที่คลินิกผู้ป่วยนอกโรคผิวหนังในโรงเรียนแพทย์ พบว่าร้อยละ 18.5 มีความผิดปกติชนิดโซมาโตฟอร์มนี้
ความผิดปกติชนิดโซมาโตฟอร์มทางผิวหนังมีหลายรูปแบบ เช่น อาการคัน, เจ็บ, paresthesia(ความรู้สึกผิดปกติที่ไร้วัตถุเหตุ เช่น อาการคัน, อาการชา),ความรู้สึกว่ารูปร่างหน้าตาไม่ได้สัดส่วน,กลุ่มอาการมลพิษจากสิ่งแวดล้อม,หรือกลัวหน้าแดง มักมีความผิดปกติทางจิตใจและสังคมร่วมด้วย อาการต่างๆ เป็นตามคำบอกเล่าของผู้ป่วย แต่ไม่สามารถตรวจพบได้จริงโดยแพทย์ สามารถแบ่งโซมาโตฟอร์มของผิวหนังได้เป็น somatisation disorders,hypochondriacal disorders,somatoform autonomic disorders,persistent somatoform pain disorders และ other,undifferentiated somatoform disorders โดยมีรายละเอียดพอสังเขปดังนี้

ความสัมพันธ์ระหว่างจิตใจและผิวหนัง

วารสารคลินิก
ความสัมพันธ์ระหว่างจิตใจและผิวหนัง
(The Mind and Skin Connection)

ตอนที่ 1...โรคผิวหนังที่เกี่ยวข้องกับโรคทางใจ

ประวิตร พิศาลบุตร พ.บ. , เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง Diplomate, American Board of Dermatology Diplomate, American Subspecialty Board of Dermatological Immunology อาจารย์พิเศษภาควิชาเภสัชกรรม, คณะเภสัชศาสตร์, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข,สภาผู้แทนราษฎร

ความเครียดส่งผลเสียต่อร่างกายหลายอย่าง เช่น ทำให้ลืมง่าย, ไม่มีสมาธิในการทำงาน, หงุดหงิด, โมโหง่าย, ติดยาเสพติด, ปวดท้อง, ปัสสาวะบ่อย, ปวดหัว, นอนไม่หลับ, นอนกัดฟัน ความเครียดยังทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด, ความดันโลหิตสูง, แผลในกระเพาะอาหาร, หืด, ต่อมธัยรอยด์เป็นพิษ และ โรคจิตโรคประสาท นอกจากนั้นความเครียด หรือความผิดปกติทางจิตใจ ยังมีความสัมพันธ์กับผิวหนังดังนี้